2553-10-31
2553-10-02
นิทานเรื่อง พระเจ้าสร้างโลก
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว
เมื่อครั้งที่พระเจ้าสร้างโลก
พระองค์มีถุงหนังใบใหญ่เอาไว้ใส่ ของวิเศษต่างๆมากมาย
พระองค์เริ่มต้นด้วยการ สร้างมหาสมุทร ทั้ง 7
โดยหลักของการวางของวิเศษ พระองค์จะต้องวางทั้ง
ของดีและของไม่ดี คู่กันไป
เพื่อไม่ให้ประเทศหนึ่งประเทศใด
สมบูรณ์ไปกว่าประเทศอื่นๆ
ทรง เอาเทือกเขาร็อกกี้ น้ำตกไนแองการ่า วางไว้ให้อเมริกา
แล้วก็เอาทะเลทรายอริโซน่า กับพายุทอนาโดวางไว้ด้วย
เอาป่าอเมซอน วางไว้ให้บราซิล ทรงเอาไข้ป่า วางไว้ให้ด้วย
เอาขั้วแม่เหล็กโลก วางไว้ให้แคนาดา
แต่ก็ทรงเอาความหนาวเย็นวางไว้ให้
เอาเทือกเขาหิมาลัย
ให้ธิเบตกับเนปาล เพื่อเป็นปราการกั้นข้าศึก
แต่ก็เอาความเบาบางของอากาศ และความแห้งแล้งไว้ให้
ทุกประเทศจะได้ของคู่กันแบบนี้ ทั้งหมด
..... จึงไม่มีประเทศใดน้อยหน้ากว่ากัน
คราวนี้ พระองค์ทรงลืมประเทศ รูปขวานเล็กๆ ทางแหลมอินโดจีน
ทรงสะพายถุงวิเศษ แล้วก้าวข้ามเขาหิมาลัยไป
แต่ด้วยความที่เขาสูงชันมาก
เทือกเขาได้เกี่ยวถุงของพระเจ้าขาด
ข้าวของที่ดีๆ ที่เตรียมเอาไว้ให้ประเทศอื่นๆ
เช่น ชายหาดสวยๆ ผืนดินอุดมสมบูรณ์
ศิลปะวัฒนธรรมดีๆ อาหารอร่อยที่สุดในโลก
ดอกไม้ ผลไม้ ชายทะเล ก็เทไปกองรวมกันที่
--- ประเทศไทยหมด ---
ว้า !! แย่แล้ว พระเจ้า ทรงคิดว่า ประเทศนี้
ท่าทางต้องเจริญกว่าประเทศอื่นๆ ทั้งหมดแน่นอน
พระเจ้าทรงมองหาภัยธรรมชาติที่จะมาถ่วงดุล แต่สายเสียแล้ว
พระองค์ทรงเอาภูเขาไฟ กับแผ่นดินไหว ให้ญี่ปุ่นไปแล้ว
ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ ประเทศอื่นๆ
จะมาฟ้องร้องพระองค์ได้ว่า พระองค์ไม่ยุติธรรม
จะมีภัยธรรมชาติอันใดหนอที่ จะทำให้ประเทศไทยไม่เจริญกว่า
ประเทศอื่นๆได้ เมื่อทรงคิดได้
เพื่อเป็นการป้องกัน ประเ ทศอันสมบูรณ์ที่สุดในโลกนี้
ไม่ให้เจริญล้ำไปกว่า ที่อื่นๆ
พระองค์ก็เลยสร้าง
....... นักการเมืองไทยขึ้นมา
ถ้ามีนักการเมืองไทยอยู่ล่ะก็
ต่อให้สมบูรณ์แค่ไหน ไทยก็ไม่มีวันเจริญ......
เมื่อครั้งที่พระเจ้าสร้างโลก
พระองค์มีถุงหนังใบใหญ่เอาไว้ใส่ ของวิเศษต่างๆมากมาย
พระองค์เริ่มต้นด้วยการ สร้างมหาสมุทร ทั้ง 7
โดยหลักของการวางของวิเศษ พระองค์จะต้องวางทั้ง
ของดีและของไม่ดี คู่กันไป
เพื่อไม่ให้ประเทศหนึ่งประเทศใด
สมบูรณ์ไปกว่าประเทศอื่นๆ
ทรง เอาเทือกเขาร็อกกี้ น้ำตกไนแองการ่า วางไว้ให้อเมริกา
แล้วก็เอาทะเลทรายอริโซน่า กับพายุทอนาโดวางไว้ด้วย
เอาป่าอเมซอน วางไว้ให้บราซิล ทรงเอาไข้ป่า วางไว้ให้ด้วย
เอาขั้วแม่เหล็กโลก วางไว้ให้แคนาดา
แต่ก็ทรงเอาความหนาวเย็นวางไว้ให้
เอาเทือกเขาหิมาลัย
ให้ธิเบตกับเนปาล เพื่อเป็นปราการกั้นข้าศึก
แต่ก็เอาความเบาบางของอากาศ และความแห้งแล้งไว้ให้
ทุกประเทศจะได้ของคู่กันแบบนี้ ทั้งหมด
..... จึงไม่มีประเทศใดน้อยหน้ากว่ากัน
คราวนี้ พระองค์ทรงลืมประเทศ รูปขวานเล็กๆ ทางแหลมอินโดจีน
ทรงสะพายถุงวิเศษ แล้วก้าวข้ามเขาหิมาลัยไป
แต่ด้วยความที่เขาสูงชันมาก
เทือกเขาได้เกี่ยวถุงของพระเจ้าขาด
ข้าวของที่ดีๆ ที่เตรียมเอาไว้ให้ประเทศอื่นๆ
เช่น ชายหาดสวยๆ ผืนดินอุดมสมบูรณ์
ศิลปะวัฒนธรรมดีๆ อาหารอร่อยที่สุดในโลก
ดอกไม้ ผลไม้ ชายทะเล ก็เทไปกองรวมกันที่
--- ประเทศไทยหมด ---
ว้า !! แย่แล้ว พระเจ้า ทรงคิดว่า ประเทศนี้
ท่าทางต้องเจริญกว่าประเทศอื่นๆ ทั้งหมดแน่นอน
พระเจ้าทรงมองหาภัยธรรมชาติที่จะมาถ่วงดุล แต่สายเสียแล้ว
พระองค์ทรงเอาภูเขาไฟ กับแผ่นดินไหว ให้ญี่ปุ่นไปแล้ว
ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ ประเทศอื่นๆ
จะมาฟ้องร้องพระองค์ได้ว่า พระองค์ไม่ยุติธรรม
จะมีภัยธรรมชาติอันใดหนอที่ จะทำให้ประเทศไทยไม่เจริญกว่า
ประเทศอื่นๆได้ เมื่อทรงคิดได้
เพื่อเป็นการป้องกัน ประเ ทศอันสมบูรณ์ที่สุดในโลกนี้
ไม่ให้เจริญล้ำไปกว่า ที่อื่นๆ
พระองค์ก็เลยสร้าง
....... นักการเมืองไทยขึ้นมา
ถ้ามีนักการเมืองไทยอยู่ล่ะก็
ต่อให้สมบูรณ์แค่ไหน ไทยก็ไม่มีวันเจริญ......
เหยือกเต็มหรือยัง ?
เหยือกเต็มหรือยัง ?
ชายหนุ่มคนหนึ่งได้รับ เชิญจากมหาวิทยาลัยเอกชน เพื่อให้เป็นวิทยากรพิเศษสอนวิชาปรัชญาให้กับนักศึกษาปริญญาโท เขาเตรียม\
การสอนอยู่หลายวันจึง ตัดสินใจจะสอนนักศึกษาเหล่านั้นด้วยแบบฝึกหัดง่ายๆ แต่แฝงไว้ด้วยข้อคิด
เขาเดินเข้าห้องเรียนมา พร้อมด้วยของสองสามอย่างบรรจุอยู่ในกระเป๋าคู่ใจ
เมื่อได้เวลาเรียน เขาหยิบ เหยือกแก้ว ขนาดใหญ่ขึ้นมา แล้วใส่ ลูกเทนนิส ลงไปจนเต็ม
' พวกคุณคิดว่าเหยือกเต็มหรือ ยัง ?' เขาหันไปถามนักศึกษาปริญญาโท
แต่ละคนมีสีหน้าตาครุ่น คิดว่าอาจารย์หนุ่มคนนี้จะมาไม้ไหนก่อนจะตอบพร้อมกัน เต็มแล้ว... '
เขายิ้มไม่พูดอะไรต่อหัน ไปเปิดกระเป๋าเอกสารคู่ใจ
หยิบกระป๋องใส่กรวดออกมา แล้วเท กรวดเม็ดเล็กๆ จำนวนมากลงไปในเหยือกพร้อมกับ เขย่าเหยือกเบาๆ
กรวดเลื่อนไหลลงไปอยู่ ระหว่างลูกเทนนิสอัดจนแน่นเหยือก เขาหันไปถามนักศึกษาอีก
“ เหยือกเต็มหรือยัง ?'
นักศึกษามองดูอยู่พัก หนึ่งก่อนจะหันมาตอบ ' เต็มแล้ว... '
เขายังยิ้มเช่นเดิม หันไปเปิดกระเป๋าหยิบเอาถุงทรายใบย่อมขึ้นมา และเททรายจำนวนไม่น้อยใส่ลงไปในเหยือก เม็ดทราย ไหลลงไป
ตามช่องว่างระหว่างกรวด กับลูกเทนนิสได้อย่างง่ายดาย เขาเทจนทรายหมดถุง เขย่าเหยือกจนเม็ดทรายอัดแน่นจนแทบล้นเหยือก
เขาหันไปถามนักศึกษาอีก ครั้ง “ เหยือกเต็มหรือยัง ?'
เพื่อป้องกันการหน้าแตก นักศึกษาปริญญาโทเหล่านั้นหันมามองหน้ากัน ปรึกษากันอยู่นาน
หลายคนเดินก้าวเข้ามาก้มๆ เงยๆ มองเหยือกตรงหน้าอาจารย์หนุ่มอยู่หลายครั้ง มีการปรึกษาหารือกันเสียงดังไปทั้งห้องเรียน จวบจน
เวลาผ่านไปเกือบห้านาที หัวหน้ากลุ่มนักศึกษาจึงเป็นตัวแทน เดินเข้ามาตอบอย่างหนักแน่น
“ คราวนี้เต็มแน่นอนครับ อาจารย์ '
“ แน่ใจนะ '
“ แน่ซะยิ่งกว่าแน่อีกครับ '
คราวนี้เขาหยิบ น้ำอัดลม สองกระป๋องออกมาจากใต้โต๊ะ แล้วเทใส่เหยือกโดยไม่รีรอ ไม่นานน้ำอัดลมก็ซึมผ่านทราย ลงไปจนหมด ทั้ง
ชั้นเรียนหัวเราะฮือฮา กันยกใหญ่ เขาหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
“ ไหนพวก คุณบอกว่าเหยือกเต็มแน่ๆ ไง ' เขาพูดพลางยกเหยือกขึ้น
“ ผมอยากให้พวกคุณจำบทเรียน วันนี้ไว้ เหยือกใบนี้ก็เหมือนชีวิตคน เรา
ลูกเทนนิสเปรียบเหมือน เป็นเรื่องสำคัญที่สุดในชีวิต เช่น ครอบครัว คู่ชีวิต การเรียน สุขภาพ ลูก พ่อแม่และเพื่อน สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่
คุณต้องสนใจจริงจัง สูญเสียไปไม่ได้
เม็ดกรวดเหมือนสิ่งสำคัญ รองลงมา เช่น งาน บ้าน รถยนต์
ทรายก็คือเรื่องอื่นๆ ที่เหลือเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เราจำเป็นต้องทำ แต่เรามักจะหมกมุ่นอยู่กับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้
เหยือกนี้เปรียบกับชีวิต ของคุณ ถ้าคุณใส่ทรายลงไปก่อน คุณจะมัวหมกมุ่นอยู่กับเรื่องเล็กๆน้อยๆ อยู่ตลอดเวลา
ชีวิตเต็มแล้ว... เต็มจนไม่มีที่เหลือให้ใส่กรวด ไม่มีที่เหลือใส่ให้ลูกเทนนิสแน่นอน '
ชีวิตของคนเราทุกคน ถ้าเราใช้เวลาและปล่อยให้เวลาหมดไปกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เราจะไ ม่มีที่ว่างในชีวิตไว้สำหรับเร ื่องสำคัญกว่า
เพราะฉะนั้นในแต่ละวัน ของชีวิต เราต้องให้ความสนใจกับเรื่องที่ทำให้ตัวเราและครอบครัวมีความสุข
ใช้ชีวิตเล่นกับลูกๆ หาเวลาไปตรวจร่างกาย พาคู่ชีวิตกับลูกไปพักผ่อนในวันหยุด พากันออกกำลังกาย เล่นกีฬาร่วมกันสักชั่วโมงสอง
ชั่วโมง เพื่อสุขภาพและความสัมพันธ์ที่ดีในชีวิต พาพ่อแม่ไปเที่ยวพักผ่อนหรือทานข้าว โทรศัพท์หาเพื่อนบ้างให้รู้ว่าเรายังคิดถึงและ
เป็นห่วง เราต้องดูแลเรื่องที่สำคัญที่สุดจริงๆ ดูแลลูกเทนนิสของเราก่อนเรื่องอื่นทั้งหมด หลังจากนั้นถ้ามีเวลาเหลือเราจึงเอามาสนใจ
กับสิ่งแวดล้อมที่อยู่ รอบๆ ตัวเรา
นักศึกษาคนหนึ่งยกมือ ขึ้นถาม “ แล้วน้ำที่อาจารย์เทใส่ลงไป ล่ะครับ หมายถึงอะไร ?'
เขายิ้มพร้อมกับบอกว่า “ การที่ใส่น้ำลงไปเพราะอยาก ให้เห็นว่า ไม่ว่าชีวิตของเราจะวุ่นวาย สับสนเพียงใดในความสับสน
และวุ่นวาย เหล่านั้นคุณยังมีที่ว่าง สำหรับการแบ่งปันน้ำใจให้กันเสมอ... '
ชายหนุ่มคนหนึ่งได้รับ เชิญจากมหาวิทยาลัยเอกชน เพื่อให้เป็นวิทยากรพิเศษสอนวิชาปรัชญาให้กับนักศึกษาปริญญาโท เขาเตรียม\
การสอนอยู่หลายวันจึง ตัดสินใจจะสอนนักศึกษาเหล่านั้นด้วยแบบฝึกหัดง่ายๆ แต่แฝงไว้ด้วยข้อคิด
เขาเดินเข้าห้องเรียนมา พร้อมด้วยของสองสามอย่างบรรจุอยู่ในกระเป๋าคู่ใจ
เมื่อได้เวลาเรียน เขาหยิบ เหยือกแก้ว ขนาดใหญ่ขึ้นมา แล้วใส่ ลูกเทนนิส ลงไปจนเต็ม
' พวกคุณคิดว่าเหยือกเต็มหรือ ยัง ?' เขาหันไปถามนักศึกษาปริญญาโท
แต่ละคนมีสีหน้าตาครุ่น คิดว่าอาจารย์หนุ่มคนนี้จะมาไม้ไหนก่อนจะตอบพร้อมกัน เต็มแล้ว... '
เขายิ้มไม่พูดอะไรต่อหัน ไปเปิดกระเป๋าเอกสารคู่ใจ
หยิบกระป๋องใส่กรวดออกมา แล้วเท กรวดเม็ดเล็กๆ จำนวนมากลงไปในเหยือกพร้อมกับ เขย่าเหยือกเบาๆ
กรวดเลื่อนไหลลงไปอยู่ ระหว่างลูกเทนนิสอัดจนแน่นเหยือก เขาหันไปถามนักศึกษาอีก
“ เหยือกเต็มหรือยัง ?'
นักศึกษามองดูอยู่พัก หนึ่งก่อนจะหันมาตอบ ' เต็มแล้ว... '
เขายังยิ้มเช่นเดิม หันไปเปิดกระเป๋าหยิบเอาถุงทรายใบย่อมขึ้นมา และเททรายจำนวนไม่น้อยใส่ลงไปในเหยือก เม็ดทราย ไหลลงไป
ตามช่องว่างระหว่างกรวด กับลูกเทนนิสได้อย่างง่ายดาย เขาเทจนทรายหมดถุง เขย่าเหยือกจนเม็ดทรายอัดแน่นจนแทบล้นเหยือก
เขาหันไปถามนักศึกษาอีก ครั้ง “ เหยือกเต็มหรือยัง ?'
เพื่อป้องกันการหน้าแตก นักศึกษาปริญญาโทเหล่านั้นหันมามองหน้ากัน ปรึกษากันอยู่นาน
หลายคนเดินก้าวเข้ามาก้มๆ เงยๆ มองเหยือกตรงหน้าอาจารย์หนุ่มอยู่หลายครั้ง มีการปรึกษาหารือกันเสียงดังไปทั้งห้องเรียน จวบจน
เวลาผ่านไปเกือบห้านาที หัวหน้ากลุ่มนักศึกษาจึงเป็นตัวแทน เดินเข้ามาตอบอย่างหนักแน่น
“ คราวนี้เต็มแน่นอนครับ อาจารย์ '
“ แน่ใจนะ '
“ แน่ซะยิ่งกว่าแน่อีกครับ '
คราวนี้เขาหยิบ น้ำอัดลม สองกระป๋องออกมาจากใต้โต๊ะ แล้วเทใส่เหยือกโดยไม่รีรอ ไม่นานน้ำอัดลมก็ซึมผ่านทราย ลงไปจนหมด ทั้ง
ชั้นเรียนหัวเราะฮือฮา กันยกใหญ่ เขาหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
“ ไหนพวก คุณบอกว่าเหยือกเต็มแน่ๆ ไง ' เขาพูดพลางยกเหยือกขึ้น
“ ผมอยากให้พวกคุณจำบทเรียน วันนี้ไว้ เหยือกใบนี้ก็เหมือนชีวิตคน เรา
ลูกเทนนิสเปรียบเหมือน เป็นเรื่องสำคัญที่สุดในชีวิต เช่น ครอบครัว คู่ชีวิต การเรียน สุขภาพ ลูก พ่อแม่และเพื่อน สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่
คุณต้องสนใจจริงจัง สูญเสียไปไม่ได้
เม็ดกรวดเหมือนสิ่งสำคัญ รองลงมา เช่น งาน บ้าน รถยนต์
ทรายก็คือเรื่องอื่นๆ ที่เหลือเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เราจำเป็นต้องทำ แต่เรามักจะหมกมุ่นอยู่กับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้
เหยือกนี้เปรียบกับชีวิต ของคุณ ถ้าคุณใส่ทรายลงไปก่อน คุณจะมัวหมกมุ่นอยู่กับเรื่องเล็กๆน้อยๆ อยู่ตลอดเวลา
ชีวิตเต็มแล้ว... เต็มจนไม่มีที่เหลือให้ใส่กรวด ไม่มีที่เหลือใส่ให้ลูกเทนนิสแน่นอน '
ชีวิตของคนเราทุกคน ถ้าเราใช้เวลาและปล่อยให้เวลาหมดไปกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เราจะไ ม่มีที่ว่างในชีวิตไว้สำหรับเร ื่องสำคัญกว่า
เพราะฉะนั้นในแต่ละวัน ของชีวิต เราต้องให้ความสนใจกับเรื่องที่ทำให้ตัวเราและครอบครัวมีความสุข
ใช้ชีวิตเล่นกับลูกๆ หาเวลาไปตรวจร่างกาย พาคู่ชีวิตกับลูกไปพักผ่อนในวันหยุด พากันออกกำลังกาย เล่นกีฬาร่วมกันสักชั่วโมงสอง
ชั่วโมง เพื่อสุขภาพและความสัมพันธ์ที่ดีในชีวิต พาพ่อแม่ไปเที่ยวพักผ่อนหรือทานข้าว โทรศัพท์หาเพื่อนบ้างให้รู้ว่าเรายังคิดถึงและ
เป็นห่วง เราต้องดูแลเรื่องที่สำคัญที่สุดจริงๆ ดูแลลูกเทนนิสของเราก่อนเรื่องอื่นทั้งหมด หลังจากนั้นถ้ามีเวลาเหลือเราจึงเอามาสนใจ
กับสิ่งแวดล้อมที่อยู่ รอบๆ ตัวเรา
นักศึกษาคนหนึ่งยกมือ ขึ้นถาม “ แล้วน้ำที่อาจารย์เทใส่ลงไป ล่ะครับ หมายถึงอะไร ?'
เขายิ้มพร้อมกับบอกว่า “ การที่ใส่น้ำลงไปเพราะอยาก ให้เห็นว่า ไม่ว่าชีวิตของเราจะวุ่นวาย สับสนเพียงใดในความสับสน
และวุ่นวาย เหล่านั้นคุณยังมีที่ว่าง สำหรับการแบ่งปันน้ำใจให้กันเสมอ... '
สูตรลดหน้าท้อง
สูตรลดหน้าท้อง
** เครื่องปรุง*
1.โยเกิร์ต ครึ่งถ้วย 2.นมสด 1 กล่อง 3.น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ 4.มะนาว 1 ลูก ** วิธีทำ**
นำเครื่องปรุงทั้งหมดผสมให้เข้ากันชิมรสตามใจชอบ
** วิธีการดื่ม**
ต้องดื่มตอนเช้า มื้อเดียวก่อนอาหาร มื้ออื่นไม่เห็นผล มะนาวก็ควรบีบแล้วกินทันที เพื่อรักษาคุณสมบัติวิตามินซีไว้ และควรดื่มน้ำตาม 1-2 แก้ว จะเห็นผลดียิ่งขึ้น
** สรรพคุณ**
ไม่ใช่ยาลดน้ำหนักโดยตรง แต่จะปรับธาตุ ล้างพิษในลำไส้ ล้างไขมัน กินวันแรกๆ จะ เห็นเลยว่าอุจจาระจะเป็นสีดำ และไล่ลมในกระเพาะดีมาก ระยะต่อมา เมื่อลำไส้และกระเพาะอาหารในร่างกายปรับตัวได้กับอาหารที่กินแล้วจะเข้าสู่ ภาวะปกติ แต่ต่อมาจะมีความรู้สึกว่าหน้าท้องยุบลงไปเรื่อยควรกินทุกเช้าติดต่อกันทุก วัน
** โทษของไขมัน**
ไขมันที่เกาะในผนังลำไส้ กระเพาะอาหารตับม้ามให้ดูดซึมบกพร่องเป็นเหตุให้เกิดโรคต่างๆ ดังนี้
1. ถุงน้ำดี ทำให้นอนไม่หลับ อารมณ์ฉุนเฉียว นิ่วในไต สายตาเสื่อม ปวดเมื่อยตามร่างกาย
2. เลือดเลี้ยงสมองไม่พอ ทำให้มึนศรีษะ
3. ไตเสื่อม ทำให้ความจำลดลงและเป็นคนขี้หนาว
4. ม้ามชื้น ทำให้อาหารที่กินเข้าไปแปรสภาพเป็นไขมันเป็นผลทำให้อ้วนง่าย
5. ม้ามโต ทำให้เหนื่อยง่ายเพราะม้ามไปเบียดปอด
6. ถ้าไขมันเกาะลำไส้เล็กมากๆ จะทำให้ลำไส้เล็กไม่สามารถดูดซึมวิตามินซีได้ เป็นผลทำให้เป็นหวัดในตอนเช้าหรือหวัดเรื้อรัง กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ เกิดโรคภูมิแพ้
7. ถ้าไขมันในตับสูง การสร้างเม็ดเลือดจะลำบาก ฉะนั้นการดื่มตามสูตรนี้ นอกจากช่วยลดหน้าท้อง ยังส่งผลให้อาการป่วยทั้ง 7 ประการนี้หายไป ด้วย
วัดราษฎร์ นิมิตศรัทธาธรรม (วัดหนองปรือ) จ.สมุทรปราการ
วัดราษฎร์ นิมิตศรัทธาธรรม ตั้งอยู่เลขที่ ๒๘ บ้านคลองหนองปรือ หมู่ ที่ ๖ ตำบลหนองปรือ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย
วัดราษฎร์นิมิตรศรัทธาธรรม
เป็นวัดเก่าแก่มากสร้างเมื่อ พ.ศ.2440 มีกุฏิสงฆ์เป็นอาคารไม้สักแบบทรงไทยทั้งหมด มีภาพจิตรกรรมฝาผนัง แสดงนรก สวรรค์ และพุทธประวัติ และได้ลื้อเมื่อ พ.ศ.2542 เนื่องจากเป็นเขตเวนคืนของการสร้างสนามบิน ปัจจุบันสร้างในเขต หมู่ 1 ต.หนองปรือ เนื้อที่ 40 ไร่ สร้างโดยใช้งบประมาณ 200 กว่าล้านบาท โดยงบประมาณการสร้างของบริษัทท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ มีศาลา โบสถ์ เมรุ หอระฆัง กุฏิ สวยงามทันสมัยมาก สร้างเมื่อ พ.ศ.2542 บรรยากาศร่มรื่น เหมาะกับการถือศีล ภาวนา นั่งสมาธิ
วัดราษฎร์นิมิตศรัทธาธรรม สร้างขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ ๕ มีนาคม พ.ศ.๒๔๒๐ ขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือน ๔ ปีฉลู โดยมีปู่ปัน ย่าพลี ย่าลัด ย่าเล็ก โตประเสริฐ ได้พร้อมใจกันบริจาคที่ดิน เเละดำเนินการสร้างวัดนี้ การที่ได้มีนามวัดอย่างนั้น เนื่องจากผู้สร้างคนหนึ่งได้นิมิตเเล้วเกิดศรัทธาพร้อมใจกันสร้างวัด โดยที่บริเวณรอบวัดเป็นบึงใหญ่มีต้นปรือมากมาย วัดตั้งอยู่ริมคลองหนองปรือนั้น ชาวบ้านจึงนิยมเรียกว่า "วัดหนองปรือ" มาจนทุกวันนี้ วัดราษฎร์นิมิตศรัทธาธรรม ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ ๙ มีนาคม พ.ศ.๒๔๓๕ เขตวิสุงคามสีมากว้าง ๔๐ เมตร ยาว ๘๐ เมตร ได้ผูกพัทธสีมาเมื่อวันที่ ๓๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๔๓
เป็นวัดเก่าแก่มากสร้างเมื่อ พ.ศ.2440 มีกุฏิสงฆ์เป็นอาคารไม้สักแบบทรงไทยทั้งหมด มีภาพจิตรกรรมฝาผนัง แสดงนรก สวรรค์ และพุทธประวัติ และได้ลื้อเมื่อ พ.ศ.2542 เนื่องจากเป็นเขตเวนคืนของการสร้างสนามบิน ปัจจุบันสร้างในเขต หมู่ 1 ต.หนองปรือ เนื้อที่ 40 ไร่ สร้างโดยใช้งบประมาณ 200 กว่าล้านบาท โดยงบประมาณการสร้างของบริษัทท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ มีศาลา โบสถ์ เมรุ หอระฆัง กุฏิ สวยงามทันสมัยมาก สร้างเมื่อ พ.ศ.2542 บรรยากาศร่มรื่น เหมาะกับการถือศีล ภาวนา นั่งสมาธิ
วัดในจังหวัดสมุทรปราการ
วัดในจังหวัดสมุทรปราการ |
อำเภอเมืองสมุทรปราการ
อำเภอบางบ่อ
อำเภอบางพลี
อำเภอพระประแดง
อำเภอพระสมุทรเจดีย์
อำเภอบางเสาธง
|
การอุทิศผลบุญ
กรวดน้ำ
กรวดน้ำ คือ การตั้งใจอุทิศส่วนบุญกุศลที่เราได้ทำไว้แล้วไปให้แกู่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว พร้อมทั้งรินน้ำให้ไหลลงไปที่พื้นดินหรือที่รองรับ แล้วเอาไปเทที่พื้นดินอีกต่อหนึ่ง หรือรดที่โคนต้นไม้ก็ได้
เพื่อให้จำง่ายไม่สับสน จึงขอแยกเป็นข้อ ๆ ดังนี้
1.กรวดน้ำ มี 2 วิธี คือ
กรวดน้ำเปียก คือ ใช้น้ำเป็นสื่อ รินน้ำลงไปพร้อมกับอุทิศผลบุญกุศลไปด้วย
กรวดน้ำแห้ง คือ ไม่ใช้น้ำ ใช้แต่สิบนิ้วพนม อธิษฐาน แล้วอุทิศผลบุญกุศลไปให้
2.การอุทิศผลบุญมี 2 วิธี คือ
อุทิศเจาะจง ได้แก่ การออกชื่อผู้ที่เราจะให้ท่านรับ เช่น พ่อ..แม่..ลูก..หรือใครก็ได้
อุทิศไม่เจาะจง ได้แก่ การกล่าวรวม ๆ กันไป เช่น ญาติทั้งหลาย เจ้ากรรมนายเวร และสรรพสัตว์ทั้งหลายเป็นต้น
ทางที่ถูก ควรทำทั้งสองวิธี คือ ผู้ที่มีคุณหรือมีเวรต่อกันมาก เราก็ควรอุทิศเจาะจงที่เหลือก็อุทิศรวม ๆ
3.น้ำกรวด ควรเป็นน้ำที่สะอาด ไม่มีสีและกลิ่น และเมื่อกรวดก็ควรรินลงในที่สะอาดหรือไปเทในที่สะอาด อย่ารินลงกระโถนหรือที่สกปรก
4.น้ำเป็นสื่อ - ดินเป็นพยาน การกรวดน้ำมิใช่จะอุทิศไปให้ผู้ตายกินน้ำ แต่ใช้น้ำเป็นสื่อและใช้แผ่นดินเป็นพยานให้รับรู้ในการอุทิศส่วนบุญ
5.ควรกรวดน้ำตอนไหน ควรกรวดน้ำทันทีในขณะที่พระอนุโมทนา แต่ถ้าไม่สะดวกจะทำตอนหลังก็ได้ แต่ทำในขณะนั้นดีกว่าด้วยเหตุ 2 ประการ คือ
- ถ้ามีเปรตญาติมารอรับส่วนบุญ ท่านก็ย่อมได้รับในทันที
- การรอไปกรวดที่บ้าน หรือกรวดภายหลังบางครั้งอาจลืมไปผู้ที่เขาตั้งใจรับก็อด ผู้ที่เราตั้งจะให้ก็ชวดไปด้วย
6.ควรรินน้ำ้ำตอนไหน ควรเริ่มรินน้ำพร้อมกับตั้งใจอุทิศในขณะที่พระผู้นำเริ่มสวดว่า "ยะถา วาริวะหาปูรา.." และรินให้หมดในเมื่อพระว่ามาถึง "...มะณิโชติระโส ยะถา..." พอพระทั้งหมดรับพร้อมว่้า "สัพพีติโย วิวัชชันตุ.." เราก็พนมมือรับพรท่้านไปจนจบ จึงจะถือว่าถูกต้อง
7.ถ้ายังว่าบทกรวดน้ำไม่เสร็จ จะทำอย่างไร ก็ควรใช้บทกรวดน้ำที่สั้น ๆ หรือใช้บทกรวดน้ำย่อก็ได้ เช่น "อิทัง โน ญาตินัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย ขออุทิศส่วนบุญนี้จงสำเร็จแ่ก่... (ออกชื่อผู้ล่วง
ลับ) และญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอญาติทั้งหลายจงเป็นสุขเถิด"
หรือจะใช้แต่ภาษาไทยอย่างเดียวก็ได้ว่า
" ขออุทิศส่วนบุญกุศล ที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญแล้วนี้จงสำเร็จแ่ก่พ่อแม่ ญาติ ครูอาจารย์ ผู้มีพระคุณ เจ้ากรรมนายเวร และสรรพสัตว์ทั้งหลาย ขอจงได้รับส่วนบุญกุศลครั้งนี้โดยเร็วพลัน และโดยทั่วถึงกันเทอญ"
ส่วนบทยาว ๆ เราควรเอาไว้กรวดส่วนตัว หรือกรวดในขณะทำวัตรสวดมนต์รวมก็ได้
8.อย่าทำน้ำสกปรก ด้วยการเอานิ้วไปรอไว้ ควรรินให้ไหลเป็นสายไม่ขาดระยะ และไม่ควรใช้วิธีเกาะตัวกันเป็นกลุ่ม หรือเป็นทางเหมือนเล่นงูกินหาง
ถ้าเป็นในงานพิธีต่าง ๆ ให้เจ้าภาพหรือประธาน รินน้ำกรวดเพียงคนเดียว หรือคู่เดียวก็พอ คนนอกนั้น ก็พนมมือตั้งใจอุทิศไปให้
9.การทำบุญและอุทิศส่วนบุญ ควรสำรวมจิตใจ อย่าจิตฟุ้งซ่าน ปลูกศรัทธา ความเชื่อ และความเลื่อมใสให้มั่นคงในจิตใจ ผลของบุญและการอุทิศส่วนบุญย่อมมีอานิสงส์มาก
ผลบุญที่เราอุทิศไปให้ ถ้าไม่มีใครมารับก็ยังคงเป็นของเราอยู่ครบถ้วน ไม่มีผู้ใดจะมาโกงหรือแย่งชิงเอาไปเลย
10.บุญเป็นของกายสิทธิ์ ยิ่งให้ยิ่งมาก ยิ่งตระหนี่ยิ่งน้อย ยิ่งอุทิศให้คนอื่นหมดเลย เราก็ยิ่งจะได้บุญหมดเลย
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)